สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในสัปดาห์ที่ 2
1. การบวกเลขฐาน 1 บิต
ข้อควรระวัง ในการบวกลบเลขฐานต้องบวกหรือลบด้วยจำนวนบิตที่เท่ากันและเมื่อนำเลขฐานเดียวกันมา
กระทำกันจะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน
2. การบวกเลขฐานมากกว่า 1 บิต
เช่น 1 0 0 (Carry Biy)(บิตทด)3. การลบเลขฐาน
ในการลบเลขฐานเราจะลบโดยการบวกค่าลบเข้าไปแทน
โดยเราจะนำการ Compliment มาช่วย ซึ่ง
การ Compliment คือ
การทำให้บิตที่มีค่าประจำหลักมากที่สุดเป็นลบ(MSB)
*MSB คือ บิตที่มีค่าประจำหลักมากที่สุด
ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ทางซ้ายสุด
LSB
คือ บิตที่มีค่าประจำหลักน้แยที่สุด
ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ทางขวาสุด
หลักการในการทำ Compliment
-1’s Compliment คือ การสลับเลขแต่ละหลักจาก 0 ให้เป็น 1 หรือ 1 ให้เป็น 0
-2’s Compliment คือ การบวก 1 เข้าไป
เช่น
0101
-
1’s Compliment คือ 1010
-
2’s Compliment คือ
1011
ดังนั้น
1011 หรือ -5 เป็น Compliment
ของ 0101 หรือ 5
Data
Range
Data
Range คือ ช่วงข้อมูล ซึ่งใน Unsigned Value กับ
Compliment Value จะมีจำนวนข้อมูลเหมือนกัน แต่มี
Data
Range ที่ต่างกัน
-Unsigned Value
ประกอบไปด้วยจำนวน
-Compliment ประกอบไปด้วยจำนวนบวกและจำนวนลบ
เช่น Unsigned Value 0 1 2 3 4 5 6 7
Compliment 0 1 2 3 -4 -3 -2 -1
Binary Overflow
Binary Overflow คือ
ผลลัพธ์หรือตัวเลขที่ได้เกินที่ช่วงจำนวน Bit จะสามารถแสดงได้
- การแก้ไข Binary
Overflow สามารถแก้ไขได้ด้วยการเพิ่ม Bit โดย ถ้าเป็นจำนวนลบให้เพิ่ม 1 เข้าไปซ้ายสุด
แต่ถ้าเป็น
จำนวนบวกให้เพิ่ม 0 เข้าไปซ้ายสุด ซึ่งตำแหน่งซ้ายสุดจะเป็นตำแหน่งที่ทำให้เรารู้ได้ว่าจำนวนนั้นเป็นจำนวนบวก
(ข้างหน้าเป็น 0)หรือจำนวนลบ(ข้างหน้าเป็น
1) ซึ่งเรียกว่าSigned Bit
- การ Detect Binary
Overflow ทำได้โดยการ Check
singed bit ของคำตอบ กับ Signed bit ของตัวตั้งและตัวบวก
โดย
1.เมื่อนำจำนวนบวกมาบวกกัน
ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นจำนวนบวก โดยสังเกตได้จาก Signed Bit ของตัวตั้ง
ตัวบวกและ
ผลลัพธ์ เป็น 0 แต่ถ้า signed bit ของผลลัพธ์ เป็น 1 จะเกิดการ Overflow
2.เมื่อนำจำนวนลบมาบวกกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นจำนวนลบ
โดยสังเกตได้จาก Signed Bit ของตัวตั้ง ตัวลบ และ
ผลลัพธ์
เป็น 1 แต่ถ้า signed bit ของผลลัพธ์
เป็น 0 จะเกิดการ Overflow
3.เมื่อนำจำนวนบวกและจำนวนลบมาบวกกัน
จะไม่มีทางเกิด Overflow
สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทดลอง
กิจกรรมที่
1 วงจรมีการทำงานแบบ half adder โดยมีทั้ง
xor gate , and gate อย่างละตัว หลักการทำงานของวงจรนี้คือ input A,
input B ( logic switch ) เข้าที่ xor gate และจั๊มไปที่ input ของ and gate แล้วส่ง output ( logic monitor ) โดยผลการทดลองที่
ออกมาคือ
input B ( logic switch ) เข้าที่ xor gate และจั๊มไปที่ input ของ and gate แล้วส่ง output ( logic monitor ) โดยผลการทดลองที่
ออกมาคือ
กิจกรรมที่
2 การบวกเลขขนาด 1 bit โดยใช้วงจร
Logic(Full Adder)
ผลการทดลองได้ดังนี้
จากผลที่ออกมา
การทำงานคล้ายกับกิจกรรมที่ 1 แต่เพียงการทำงานขึ้นมาอีก
1 ชุด ดังนี้
ถ้า logic
ต่างกัน exclusive-or gate ก็ส่งเป็น Output
ออกมาเป็น 1 และถ้า Logic input เหมือนกัน exclusive-or gate จะส่ง output ออกมาเป็น 0 เปรียบเสมือนการบวกเลขหลักหน่วย
ดังนั้นเราจะต้องต่อ output ของ exclusive-or gate ให้เป็น
LBS
สำหรับ
and gate ต้องต่อเข้า carry เปรียบเสมือนเป็นตัวทด ทำให้
ในกรณี input A เป็น 1 , input B เป็น 1
จึงทำให้ and gate เป็น 1ส่งออกเป็น carry จึงได้ค่ารวมออกมาเป็น 2ในฐาน 10
ดังนั้นจะสามารถสรุปได้ว่าวงจร
Half Adder จะประกอบไปด้วย XOR กับ
AND โดย exclusive-or gate จะหาผลรวมของ
LBS แต่ and gate จะหา MBS ซึ่งหาได้จากการนำ carry bit มารวมด้วย
กิจกรรมที่
3 การบวกเลขขนาด 2 Bit
(Full Adder)
วงจร Full
Adder จะประกอบไปด้วย 2 Half Bit และ or
gate โดย carry
input ของ Half Bit อันแรกจะต่อกับ Ground
เพราะ carry Bit ของ ตัวแรกจะเป็น 0 และ carry input ตัวต่อๆไปจะต่อกับ carry
output ของตัวก่อนหน้าเหมือนเป็นการทดเลขไปยัง bit ถัดไป และใช้ or gate มารวม carry output เพราะฉะนั้นเมื่อ input ทั้ง 4 ค่าเป็น 1 ผลรวมสูงสุดของวงจรนี้จึงเป็น 6
0 ความคิดเห็น: